ความเครียด เป็นความรู้สึกที่อยู่กับทุกๆคนอยู่แล้วเป็นธรรมชาติ จะจัดการมันได้อย่างไร ?
วันนี้ไม่ได้พูดถึงการจัดการความเครียดด้วยกายภาพ เช่น ออกกำลังกาย ทานอาหารอะไรบ้าง แต่จะพูดถึงเรื่องของสภาวะจิตใจหรือจิตของเรา ซึ่งจิตนั้นมีความสอดคล้องกับความเครียด เมื่อเราเกิดสภาวะความเครียดขึ้นมาร่างกายจะตอบสนองทันทีด้วยท่าทาง สีหน้า อาการว้าวุ่นใจ ตัวร้อน มีเหงื่อร่วมด้วย และในบางครั้งก็ไม่รู้ตัว บางครั้งก็สามารถรับรู้ได้ทันที
ความเครียดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. ความเครียดแบบเร่งด่วน เป็นความเครียดที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นทันที อาจจะเกิดจากการทำงานที่ไม่ตามเป้าที่ตั้งไว้ หรือ โดนดุด่าจากเจ้านายที่งานไม่เป็นตามที่ตั้งไว้
วิธีแก้ไข : ให้หายใจลึกๆ ประมาณ 10 ครั้ง ช้าๆ อาจจะแอบทำให้ห้องน้ำเพื่อความเป็นส่วนตัว ความเครียดจะค่อยๆ บรรเทาลง พอสภาวะจิตใจเริ่มดีขึ้นให้หาวิธีการแก้ไขปัญหาทันที อย่ารอช้า อาจจะจดด้วยกระดาษ พูดคุยกับเพื่อนในองค์กรร่วมกันแก้ปัญหา
2. ความเครียดแบบสะสม เป็นความเครียดที่สะสม เจอเรื่องเครียดซ้ำๆ ทุกๆวัน ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทำให้เรามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน การเครียดสะสมที่เริ่มแสดงผลชัดเจนอาจจะใช้เวลา 3 -5 ปีแล้วแต่ตัวบุคคล โดยอาการเครียดแบบนี้จะแสดงอาการเบื้องต้นเช่น ทานอาหารได้น้อย นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท ตื่นมาไม่สดชื่น มีอาการปวดหัวร่วมด้วย
วิธีแก้ไข : เป็นการแก้ไขเบื้องต้น เมือมีอาการเครียดให้หายใจลึกๆ ช้าๆ 5-10 ครั้ง จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติ ลดการปะทะสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียด หาอ่านหนังสือด้านจิตวิทยาจะทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น ปรับเปลี่ยนวิธีคิดได้เชิงบวก สิ่งที่สำคัญคือ ปล่อยวาง กับทุกสิ่งให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ หลักการที่ผมใช้ตลอดกับทุกๆสิ่ง “ทำเต็มที่ ได้แค่ไหน เอาแค่นั้น” ถ้าเราเต็มที่กับทุกเรื่องแล้วผลออกมาเป็นยังไงอย่าไปสนใจ และสุดท้ายถ้าเครียดจนไม่ไหวให้คุยกับคนที่คุณคุยแล้วเราสบายใจ คุยได้ทุกเรื่อง ออกไปนอกห้องบ้าง ลองเดินดูผู้คนบ้าง ลองคุยกับคนไม่รู้จักวันละ 1 คน แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป…
